Wednesday, April 26, 2006

อารี

คืนนี้เอง เมื่อตอน 3 ทุ่มกว่าที่ร้านอาหาร ดนตรีดี บรรยากาศกำลังสบาย
คุณอุ๋น : คุณแนน
คุณอุ๋นพยักหน้าให้หันไปมองทางด้านข้าง
แนน : อารี
อารี : สวัสดีครับ (ยกมือใหว้)
แนน : ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ
อารี : ครับ ผมไม่เจอพี่เลย ร้านจันทร์เจ้าเอ๋ย เขาปิดแล้วนะครับ เขาบอกอย่างง้ัน
อารีชวนคุย
แนน : วันนี้ขายพวงมาลัยเหรอ ไม่ชื้อได้ไม๊อะ
อารี : ให้ตังผมก็ได้ครับ ผมจะได้เก็บไว้ซื้ออย่างอืก
แนน : ซื้ออะไร
อารี : ก็....อย่างอื่นอะครับ รองเท้าตรงนิ้วโป้งผมก็ขาดแล้ว
แนน : งั้นให้ตังแล้วกันนะ
อารี : ซื้อพวงมาลัยก็ได้ครับ จะได้กลับเร็วๆ (อารีชักเปลี่ยนใจ)
แนน : งั้นซื้อพวงมาลัยพวงหนึ่ง แล้วให้อารี 20
แนน : อารีอย่าเอาไปซื้อยาเสพติด หรือเอาไปใช้ไม่ดีนะ
อารี : ครับ (ยกมือใหว้ และเอาพวงมาลัยใส่ถุง)

อารี เด็กชายวัย 10 ขวบ คนที่แนนเจอเขามาประมาณ 2 ปี แล้ว เราคุ้นเคยกัน คุยกัน เวลาเจอกันก็ดีใจนะ
เมื่อก่อนอารีขายดอกกุหลาย อุดหนุนทุกครั้งที่เจอ วันไหนแนนอารมณ์ดีมากๆ ^^ ซื้อเป็น 100 บาทเลยนะ
บางทีมากะพี่ผู้ใหญ่แล้วเจออารี อารียนึกว่าเป็นแม่ เขาก็จะแก้ตัวให้ต่างๆ นาๆ ^^ น่ารักดีค่ะ

อารีเป็นจิ๊กซอตัวหนึ่งของแนน ของโลกนี้ .............ว่าไม๊

ดีใจจัง ที่ได้พูดถึงอารี ^--^

Tuesday, April 25, 2006

เรื่องใหญ่

วันจันทร์เย็น ใหญ่โทรมา : คุณแนน หายเมารึยัง
แนน : ???? ฮะ ฮะ (มามุขไหนเนี่ย)
ใหญ่ : ไหนว่าว่างจะไปทานกลางวันกันไง
แนน : ??????? อืม เหรอคะ???
ใหญ่ : นี่ผมรอคุณโทรมาอยู่เนี่ย
แนน : ??? นัดไว้เหรอคะ
ใหญ่ : ก็คุณโทรบอกผมตั้งแต่เมื่อคืนวันก่อน (คืนวันศุกร์มั้ง แนนคิดนะ) ว่าจะไปทานกลางวันกันน่ะ
แนน : 555 เหรอคะ จำไม่ได้อะ
แนน : แล้วนี่ทานอะไรรึยังคะ ไม่หิวแย่เหรอ หลายวันแล้วนะ
blah blah blah.....

555 ตกลงมุขใครเนี่ย

^--^

Thursday, April 20, 2006

สัมผัสรักษา

ประมาณ 2 อาทิตย์กว่าแล้วที่แม่เจ็บข้อนิ้วโป้งขวา ก็ทายา นวด แต่อาการไม่ดีขึ้น แม่เลยกะว่าจะไปหาหมอกระดูก แต่หมอมาวันศุกร์ก็เลยยังไม่ได้ไป จนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม่ปวดมาก (แนนคิดงั้นนะ) แม่ก็เลยบอกให้แนนจับให้ ระหว่างจับ แม่ก็ว่ามีอาการเจ็บแปลบๆ ไปที่ปลายนิ้ว ส่วนแนนเองก็รู้สึกว่ามันพยายามดิ้นหนีอยู่(แต่ไม่แรงนะ) จากนั้น แม่ก็ดีขึ้น ความเจ็บทุเลา นั่งแซวกันกะแม่ว่า ถ้าหายนี่จะเปิดสำนัก เจ้าแม่แนน ; ) วันต่อมาแม่ให้จับอีก วันนี้แนนเร่ิมรู้สึกไม่ปกติ ซึ่งก็ยอมที่จะรับอาการนี้ (แบบว่าเข้าตัวน่ะ) ไม่ได้มีอะไรซีเรียส แค่คงเป็นเพราะคิดว่าแนนควบคุมได้ จัดการกับมันได้อะ พอบ่าย แนนมีอาการปวดข้อมือซ้าย(จุดอ่อนที่สุดของร่างกายนี้) แบบไม่มีที่มาที่ไป มาก มีนัดตอนเย็นด้วย ก็ดูแลตัวเองไปจับไป ดีขึ้นแต่ไม่หาย ถัดมาอีกวัน ทุกอย่างดำเนินไปแบบเดิม คือแนนจับให้แม่ ส่วนตัวแนนเองก็ยังปวดข้อมืออยู่ จนเมื่อเช้านี้ เอาละสิ อาบน้ำเสร็จ ข้อมือขวาเร่ิมปวดมากขึ้นๆ ไม่ได้การแล้ว เป็น 2 ข้างนี่ง่อยเลยนะ จะบอกว่าอะไรดีล่ะ ซ้ายยังป่วยไม่หาย ขวาก็งอแงจะเป็นตามซะแล้ว ขอบารมีหลวงปู่แล้วหละ ไม่ได้มีอะไรหรอก ก็นั่งสมาธิและวางหลวงปู่ไว้ในมือ อืม.....ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ เลยค่ะ ซัก 10 นาที(พอดีมีสายเข้า) ขวาเลิกงอแงไปเลย ส่วนซ้ายก็ดีขึ้น

ขอบคุณธรรมชาติค่ะ
ขอบคุณหลวงปู่ค่ะ
ขอบคุณสัมผัสรักษาค่ะ

เป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตนนะคะ อย่าเชื่อหรือปฎิเสธในสิ่งที่ไม่ได้รับรู้เฉพาะตนค่ะ

ไม่มีปาฏิหาริย์(เปิดพจนานุกรมแล้ว) ไม่มีอะไรวิเศษ ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าความว่าง ไปจนถึง การปรุงแต่ง ล้วนแต่เป็นธรรมชาติ "ของจิต" ทั้งสิ้น

^--^

E ผีเสื้อสมุทร

เมื่อคืนยังสนุกสนานบันเทิงไม่พอ ฮา สายนี้หลังจากรับสาย 2-3 สายก็รีบแจ้นโทรหาเพื่อน
เจอกันอีก ทีม แนน จั่น ยุ้ย ก็นะ ไปร้านส้มตำเจ้าใหม่ (แนนแนะนำ ก็เห็นว่าเขามีชื่อ...นี่นา)
ขับรถตามกันไป ก็โม้กะจั่นเพลินไปหน่อย เจ้ยุ้ยก็โทรมาด่าเลย นี่ชั้นขับตาม blah blah blah
หายหัว blah....เราก็ จ้า จ้า พอแล้วอย่าด่าเล้ย....(งงอยู่เหมือนกันว่า แค่เนี้ยด่าและ)
สงสัยมันโมโหหิว ก็แค่บ่ายครึ่งเอง สำหรับมื้อเช้า
พอถึงร้าน เจ้าของร้านจอมเผด็จการ(ตัวใหญ่กว่าเรา 3 คนรวมกัน) กับลูกค้าชอบตามใจ มาปะทะกัน
เจ้เจ้าของร้านแกให้สั่งแหลกเลย
เราก็ อืม ค่ะ แต่ยุ้ยสิ คุโค ต ร อะ ทั้งแดกทั้งดัน น่ากลัวโดนตื๊บคาร้านมากเลย
แล้วในที่สุดตอนออกจากร้าน ยุ้ยก็บอกว่า "E ผีเสื้อสมุทร" เสียงแหลมสูงด้วย
แล้วเราก็รวมมานั่งเม้าในรถคันเดียวกัน ถึงได้รู้ว่าพี่ยุ้ยแกเจอเรื่องต้องวีนมาตั้งแต่เช้าอะสิ
แต่นะ จั่นว่า "E เป็นถ้อยคำมงคล"
อืม work มากเลย

ภาษาไทยวันละคำวันนี้ขอเสนอ " E เป็นถ้อยคำมงคล" ค่ะ

^--^

Monday, April 17, 2006

โนนดอกจาน

กาฬสินธ์ุ กับสงกรานต์ อืม ร้อนตับแลบ เหอๆ ตับแลบ....

แสดงตัวตนเกินไปรึเปล่า....ล่ะ

ขอยืม airport มา สาธุจ้า

กระทู้ที่ถูกลบ และแล้วก็กลับมา : )

วันนี้ขี้เกียจจัง นอนดีกว่า อิ อิ โปรดอยู่แล้ว ; )

กล้วยใบใหญ่ใส่ไข่สองฟอง .....เจ๋งอะ ; )

Monday, April 10, 2006

invisible cage

เหตุผล เหตุผล และเหตุผล อืม ค่ะ ค่ะ

แล้วที่ว่าปราศจากเงื่อนไขล่ะ อ๋อนั่นน่ะมัน..... อืม ค่ะ ค่ะ

ตบหัวแล้วลูปหลัง ก็นะ ถ้าไม่ตบหัวจะได้ลูปหลังเหรอไง

Why make it strong and break it once again. อิ อิ ยืมมาจากเพลง.......

เพลงนี้ดีกว่า คิดถึงจังเลย ก็ไปให้เพื่อนตบหัวแล้วลูปหลังดีกว่าอะ : )

You've Got A Friend
Copyright © 1971 by Colgems EMI Music (ASCAP)
by Carole King
as performed by James Taylor


When you're down and troubled
and you need a helping hand
and nothing, whoa nothing is going right.
Close your eyes and think of me
and soon I will be there
to brighten up even your darkest nights.
You just call out my name,
and you know wherever I am
I'll come running, oh yeah baby
to see you again.
Winter, spring, summer, or fall,
all you have to do is call
and I'll be there, yeah, yeah, yeah.
You've got a friend.
If the sky above you
should turn dark and full of clouds
and that old north wind should begin to blow
Keep your head together and call my name out loud
and soon I will be knocking upon your door.
You just call out my name and you know wherever I am
I'll come running to see you again.
Winter, spring, summer or fall
all you got to do is call
and I'll be there, yeah, yeah, yeah.
Hey, ain't it good to know that you've got a friend?
People can be so cold.
They'll hurt you and desert you.
Well they'll take your soul if you let them.
Oh yeah, but don't you let them.
You just call out my name and you know wherever I am
I'll come running to see you again.
Oh babe, don't you know that,
Winter spring summer or fall,
Hey now, all you've got to do is call.
Lord, I'll be there, yes I will.
You've got a friend.
You've got a friend.
Ain't it good to know you've got a friend.
Ain't it good to know you've got a friend.
You've got a friend.

^-^

Sunday, April 09, 2006

คนสำคัญ


พยายามที่จะไม่เป็นคนสำคัญของใคร และพยายามลดความสำคัญของใครๆ ที่เรามีอยู่ เพื่อลดความคาดหวังของเราจากเขา และเพื่อลดความคาดหวังของเขาจากเราไงคะ : )
แค่นี้ คนพิเศษของเราก็มีอยู่ตั้งไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
ลดความสำคัญที่ตัวเองมีให้กับตัวเองลงบ้าง (ตัวกูของกูน่ะค่ะ)
เราก็แค่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของสรรพสิ่งเท่านัั้นเอง

พยายามเป็นส่วนประกอบที่มีประโยชน์ และไม่เบียดเบียนส่วนประกอบอื่น


^^ ฝนเม็ดกลมๆ ^^

Thursday, April 06, 2006

น้ำหนักลด 2 โลแล้ว :)

อาการของการลดความอ้วน โดยกินอาหารตามสูตร
วันที่ 1 เช้า กาแฟเพียว อันนี้ปกติ กินเป็นปกติอยู่แล้ว กลางวันไข่ต้ม 2 ลูก นี่แหละ แย่จังทำไมน้อยงี้อะ ทนนะจ๊ะทน เย็นสลัด ฮ่า ฮ่า สลัดบึ้ม :)

วันที่ 2 บ่าย 4 ลิ้นมันแปลกๆ อะ ร้อนๆ คงเป็นเพราะหิว รู้สึกเพลีย ก็นะอาหารน้อยจัง กลางวันไข่ต้ม 2 ลูกเอง เช้าก็กาแฟ ตามเมนูนี่ทั้งวันยังน้อยกว่าแนนกินมื้อเดียวอีก

จริงๆ แล้วรู้สึกผอมลงตั้งแต่คืนวันที่คิดจะลดน้ำหนักแล้วนะ

วันที่ 3 มื้อกลางวันตอนบ่าย 2 เป็นสลัด 1 หม้อ (อิ อิ เขาไม่ได้จำกัดปริมาณ) เย็น โยเกิร์ต ไม่ได้ตามสูตรแต่ใกล้เคียงนะ รู้สึกว่า เอ...ชีวิตนี้อยู่ได้นี่กินอาหารแค่เนี้ย ไม่เห็นต้องกินแบบชูชกเลยอะ

วันนี้เพื่อนถามว่า เกิดอะไรขึ้นคิดลดความอ้วน ปีชาติก็เป็นอวบระยะสุดท้ายอยู่นั่นแหละ (ใครๆ ก็สงสัย ลูกน้องยังถามเลย พี่ไม่เสียดายไขมันที่สะสมมาเหรอ เห็นถามที่ไรก็เสียดายไขมัน) อืม เหตุจูงใจน่ะเหรอ น่าจะเป็นที่เพื่อน fw.mail รูปผู้หญิงน้ำหนักประมาณ 150 แต่ๆๆๆๆ จริงๆ แล้วไม่ใช่อะ เป็นเพราะพี่ที่ office ขอสูตรลดน้ำหนัก(บอกเขาว่าที่บ้านเห็นมีแปะที่ตู้เย็น) เลยเอามาให้แล้วเขาไม่ยอมกินตามสูตรทันที ทำให้หงุดหงิด แบบว่ามางั้นแนนกินเอง อืม......มันเกี่ยวกันไม๊นะ ......เพื่อนว่างี้ประชดนี่หว่า

วันที่ 4 สบายอะ อยู่ได้ เสื้อผ้าไม่คับ มื้อกลางวัน เกาเหลาผัก+ผักบุ้งผัด รู้สึกขอบคุณอาหารจังค่ะ อร่อย อร่อย

วันที่ 5 จำไม่ได้แล้ว กินมั่วไปหมด พอพี่เขาเริ่มกินตามสูตร มาเช็คกันปรากฎว่าไม่เห็นเหมือนกันเลย อิ อิ ช่างมัน นี่ก็กินน้อยมากแล้วเนี่ย

วันที่ 6 กาแฟ ไข่ต้ม นม วันนี้ง่วงมากเลย อาหารคงน้อยมากเกินไป วันนี้แม่บอกว่า "กินต่ออีกซักอาทิตย์ซี่ลูก" โห.....แม่นะแม่ กลางคืนไปชั่งน้ำหนัก ลงไป 2 kg. แน่ะ

วันที่ 7 น้ำผลไม้ ตอนเช้ามันอาการผอมเพรียวมากเลย อิ อิ + กาแฟ กลางวันสลัดเหมือนเดิมขนาดเดิม เย็นโยเกิร์ต

เย เย .......เก่งจัง ทำได้ไงเนี่ย 5555 แบบที่เพื่อนว่า "ประชด" ; )

พรุ่งนี้ต้องกินฉลองซะหน่อยแล้ว : )

Monday, April 03, 2006

ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง


ขอบคุณดวงตาที่ทำให้เรามองเห็น
ขอบคุณจมูกที่ทำให้เราได้มีที่หายใจ และรับกลิ่น
ขอบคุณปากที่ทำให้เราได้รับอาหาร อาเจียนพิษออกจากร่างกาย และได้สัมผัส....
ขอบคุณหูที่ทำให้เราได้รับเสียง
ขอบคุณร่างกายทั้งหมดที่ทำให้เราได้สัมผัส และรับสัมผัส
ขอบคุณจิตใจที่ทำให้เราได้เคยตัดสิน ให้คุณค่ากับสิ่งใดๆ จากสัมผัสใดๆ ในเวลาและสถานการณ์ต่างๆ

และมีโอกาสได้ขอบคุณกับชีวิตนี้ที่ผ่านมา

ขออุทิศชีวิตที่เหลือให้ทุกสรรพสิ่งค่ะ

จะพยายามดำรงตามวิถีนี้ค่ะ